12bet link

ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“ชลน่าน” ชู  “เศรษฐา” เป็นต้นแบบขยันทำงานทุกวัน ชี้ยกระดับ 30 บาทฯ เป็นงานใหญ่ขับเคลื่อนต่อเนื่อง มีไทม์ไลน์ชัดเจน เห็นชัด “30บ.รักษาทุกที่ด้วยบัตรปชช.ใบเดียว” ส่วนนโยบายอื่นๆยังเดินหน้าขยายเป็น Mid-Year Success ทั้ง 13 ประเด็น

  กว่า 6 เดือนนับตั้งแต่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 โดยประเด็นการสร้างและพัฒนาระบบสาธารณสุขที่สำคัญ คือ การยกระดับนโยบาย “30 บาทรักษาทุกโรค” ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ครอบคลุมมากขึ้น  ประชาชนได้รับความสะดวกมากขึ้นด้วยบริการพื้นฐานใกล้บ้าน ทั้งนัดพบแพทย์ การตรวจเลือด และการรับยา ประชาชนไม่ต้องลำบากเดินทางไกลเข้าโรงพยาบาล ลดความแออัด ลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ รวมไปถึงมุ่งเน้นส่งเสริมกลไกสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคต่างๆ  ที่สำคัญยังชูการบริการสาธารณสุขที่สามารถเข้าถึงได้ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เป็นต้น เกิดคำถามท่ามกลางกระแสปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี ว่า จนถึงบัดนี้ นโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ในแต่ละแง่มุม เป็นอย่างไรบ้าง...

มีนายกฯ แบบอย่างทำงานแทบไม่มีวันหยุด

ล่าสุด นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์หลังถูกถามถึงผลงานรัฐบาลด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะการยกระดับ 30 บาทฯใน 6 เดือนที่ผ่านมา ว่า ก่อนอื่นต้องบอกว่า ตั้งแต่เริ่มรัฐบาลมา ท่านนายกรัฐมนตรีทุ่มเททำงาน เสียสละมาก แทบไม่มีวันหยุด เอาจริงเอาจังสูงมาก ต้องเลียนแบบนายกฯ ยิ่งนายกฯขยันเท่าไหร่ รัฐมนตรีทุกกระทรวง ก็ต้องขยันมากเท่านั้น ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด  แต่ในระบบงานของราชการต้องเป็นไปตามแบบแผน มีกฎหมาย มีระเบียบรองรับ บางครั้งต้องดูเรื่องระบบเหล่านี้ด้วย 

“ผมก็เช่นกัน จะขยันน้อยกว่า นายกฯไม่ได้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีความชัดเจนเรื่องนโยบาย ต้องทำตามนโยบาย รัฐมนตรีต้องกำกับ บริหารนโยบาย ส่วนการรับนโยบายสู่การปฏิบัติเป็นหน้าที่ของฝ่ายข้าราชการประจำ อย่างงานเรื่องยกระดับ 30 บาท เป็นงานหลัก งานใหญ่ จังหวะก้าว ก็ก้าวย่างไปด้วยความมั่นคงตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ เหลือแต่ระบบงบประมาณที่จะมาเสริม”นพ.ชลน่านกล่าว  

12bet linkLiên kết đăng nhập

นโยบายยกระดับบัตรทอง กับ 6 เดือนที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า  6 เดือนที่ผ่านมามองว่านโยบายที่ขับเคลื่อนมีความคืบหน้ามากที่สุด นพ.ชลน่าน กล่าวว่า  จริงๆมีหลายประเด็น ตามที่ได้แบ่งงานออกเป็นนโยบาย 13 ประเด็น และมีแบ่งเป็นนโยบายเร่งด่วน 100 วัน หรือควินวิน ยกตัวอย่าง กลุ่มแก้ปัญหาหลายเรื่องเสร็จภายใน 100 วันตามเป้าหมายเฉพาะ เช่น  นโยบายมะเร็งครบวงจร เริ่มจากการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 1 ล้านโดส สามารถทำได้ครบภายใน 100 วัน  แต่การป้องกัน ดูแลเรื่องมะเร็งปากมดลูกยังต้องทำต่อเนื่องระยะยาว ซึ่งก็มีนโยบายสั่งการในการดำเนินการต่อไป            อย่างเรื่องสุขภาพจิตเรื่องยาเสพติด แม้ว่าจะค่อนข้างเป็นดราม่า แต่หลักของการนำสู่ปฏิบัติค่อนข้างชัดเจนมาก ในเรื่องการบำบัด รักษา ฟื้นฟู และส่งเสริมป้องกันด้วย โดยการขึ้นทะเบียนหน่วยบริการสังกัดสธ.ป็นหน่วยบำบัดยาเสพติดนั้นมั่นใจว่ามีความพร้อมและขยับต่อชุมชนบำบัด  

ขยายนโยบาย Mid-Year Success

 “6เดือนที่ผ่านมา ในช่วง 100 วันแรกภาพชัดเจน สามารถขยับไปพูดเรื่องเป้าหมาย Mid-Year Success หรือการติดตามขับเคลื่อนนโยบายไตรมาส 2 วางเป้าหมายช่วงเดือนมกราคมจนถึงมีนาคม 2567 ซึ่งสามาถนำ 13 นโยบายมาบอกสาธารณชนได้ว่าเหล่านี้คือสิ่งที่ได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล นโยบายนายกฯ”นพ.ชลน่านกล่าว
ถามว่ามีนโยบายเรื่องใดที่ต้องเร่งสปีดมากกว่าเรืองอื่น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องเชิงระบบ เช่น งานปฐมภูมิ เรื่องของเมดิคัลฮับ เรี่องเวลเนส เรื่องการประเมินแหล่งท่องเที่ยวปลอดภัย เพราะเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยกลไกหลายภาคส่วน ซึ่งเวลเนสมีเป้าหมายที่จะมีเวลเนสเซ็นเตอร์ที่เป็นคอมมูนิตี้ 500 แห่งทั่วประเทศ ตั้งเป้าจะมีเฮสตี้ซิตี้อย่างน้อย 1 พื้นที่ใน 1 เขตสุขภาพ มีอำเภอสุขภาพดีทุกอำเภอ เป็นต้น 

ฉายารัฐมนตรียาบ้า 5 เม็ด

เมื่อถามว่าการดำเนินงานเรื่องบำบัดยาเสพติด ทำให้ได้ฉายาว่ารัฐมนตรียาบ้า 5 เม็ด นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่เป็นไร แต่ขอให้เติมว่า ยาบ้า 5 เม็ดเพื่อให้คนเข้าสู่การบำบัดรักษา เพราะจริงๆเจตนารมณ์เราต้องการให้คนมีโอกาสได้บำบัดรักษา กลับคืนสู่สังคม และไม่หวนคืนสู่วงจรยาเสพติดอีก

12bet linkLiên kết đăng nhập

รายละเอียดนโยบายไตรมาส 2 Mid-Year Success

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนโยบายกระทรวงสาธารณสุขไตรมาส 2 ช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ได้ขยายเป้าหมาย (Mid-Year Success) การขับเคลื่อนนโยบายทั้ง 13 ประเด็น ดังนี้ 1.โครงการพระราชดำริ เฉลิมพระเกียรติ และที่เกี่ยวเนื่องกับพระบรมวงศานุวงศ์ คือ โรงพยาบาลแม่ข่ายปรับปรุงระบบบริการตามมาตรฐานของราชทัณฑ์ปันสุขฯ 80% เพิ่มโรงพยาบาลอัจฉริยะต้นแบบระดับทอง 20 แห่ง พัฒนาชุมชนสุขภาพดี 8 แห่ง ผู้นำศาสนาผ่านหลักสูตรพระคิลานุปัฏฐาก 1,000 รูป/ท่าน ตรวจสุขภาพพระสงฆ์ สามเณร 72,000 รูป มีอำเภอสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันควบคุมโรค 70 อำเภอ โดยจะมีการคิกออฟโครงการเฉลิมพระเกียรติ “พาหมอไปหาประชาชน” 4 ภาค ในเดือนมกราคมนี้ 2.รพ.กทม. 50 เขต 50 รพ.และปริมณฑล จะเปิด รพ.นพรัตนราชธานี คุ้มเกล้า เขตมีนบุรี ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2567 และลงนามความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กับกองทัพอากาศ ในเดือนมีนาคม 3.สุขภาพจิต/ยาเสพติด ตั้งเป้า 40% ของมินิธัญญารักษ์ มีอัตราครองเตียงอย่างน้อย 30% หอผู้ป่วยจิตเวช/ยาเสพติดในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปคุณภาพ 30% และกลุ่มงานจิตเวช/ยาเสพติดในโรงพยาบาลชุมชน 90% 4.มะเร็งครบวงจร เดินหน้าคัดกรองไวรัสตับอักเสบบี/ซี 2 แสนราย ผู้ที่มีผลผิดปกติเข้าถึงการรักษาทุกราย และคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย Fit Test 475,000 ราย และส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ 38,000 ราย
5.สร้างขวัญและกำลังใจบุคลากรเร่งรัดตรวจสอบและประเมินผลงานตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษให้ครบเป้าหมาย 10,124 ตำแหน่ง รวมทั้งการใช้ตำแหน่งว่างบรรจุพยาบาลวิชาชีพให้ครบ 3,318 ตำแหน่ง และดำเนินการให้ความสำคัญบุคลากรอื่นๆ

12bet linkLiên kết đăng nhập

 6.การแพทย์ปฐมภูมิ พัฒนาระบบข้อมูลบริการสุขภาพด้วยเทคโนโลยี เพื่อการบริการอย่างไร้รอยต่อ ส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพตามช่วงวัยแบบบองค์รวม ผ่านกลไกอำเภอสุขภาพดี พร้อมทั้งยกระดับ อสม.ในการจัดบริการสุขภาพขั้นพื้นฐานด้วยเทคโนโลยี  7.สาธารณสุขชายแดนและพื้นที่เฉพาะ จะเปิดศูนย์การเรียนรู้ทางการแพทย์และสาธารณสุขชายแดน ณ รพ.แม่สอด จ.ตาก จัดทำหลักสูตร EOC Manager หลักเกณฑ์ EOC Assessment Tool และแนวทางรับมือไข้หวัดใหญ่ บุคคลผู้มีปัญหาสถานะได้รับการขึ้นทะเบียนประกันสุขภาพเพิ่มขึ้น 0.2% และห้องปฏิบัติการได้รับการเสริมความสามารถอย่างน้อย 1 ห้อง 8.สถานชีวาภิบาล ผ่านเกณฑ์มาตรฐานเขตสุขภาพละ 2 แห่ง โดยจะมีการคิกออฟสถานชีวาภิบาลต้นแบบคำประมง จ.สกลนคร ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และจัดตั้ง Hospital at Home / Home Ward ในแต่ละเขตสุขภาพมากกว่า 75% 9.พัฒนาโรงพยาบาลชุมชนแม่ข่าย โดยโรงพยาบาลชุมชนแม่ข่ายระดับ A มีบริการ CT Scan ครบทั้ง 17 แห่ง 10.ดิจิทัลสุขภาพ โรงพยาบาลสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขใน 8 จังหวัดนำร่อง และ 4 เขตสุขภาพ เชื่อมและส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยอิเล็กทรอนิกส์ได้ 100% และผ่านเกณฑ์โรงพยาบาลอัจฉริยะระดับทองขึ้นไป 10% 11.ส่งเสริมการมีบุตร ผลักดันให้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. เป็นวาระแห่งชาติ โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป 75% มีบริการการฉีดเชื้ออสุจิเข้าโพรงมดลูก (IUI) มีผู้ได้รับบริการรักษาภาวะมีบุตรยาก 2,700 คน และทารกได้รับการคัดกรองโรคหายาก 80% 12.เศรษฐกิจสุขภาพ คัดเลือกชุมชนเป้าหมาย Healthy City MODELs จังหวัดละ 1 ชุมชน ให้การรับรอง Wellness Center 300 แห่ง อนุญาตผลิตภัณฑ์ชุมชน 50 รายการ และมี Care Giver 2,500 คน / Care Assistance 500 คน นวดไทย 2,500 คน 13.นักท่องเที่ยวปลอดภัย จะให้อำเภอนำร่อง 30% เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดพิษสุนัขบ้า มีทีมตระหนักรู้สถานการณ์ (SAT) คุณภาพ และศูนย์บริการชาวต่างชาติในสถานบริการสุขภาพ ใน 31 จังหวัดนำร่อง จัดทำเส้นทางบินสำหรับ Sky Doctor โดยจะเปิดกิจกรรม Safety Phuket Island Sandbox ในเดือนกุมภาพันธ์นี้

12bet linkLiên kết đăng nhập

12bet linkLiên kết đăng nhập

m88vin fun88k 8xbet gg mu88 bet fun88 chính thức